บอกลาความเหม็น! 10 วิธี แก้กลิ่นอับในรถยนต์ สัมผัสอากาศสดชื่นเหมือนใหม่

/
/
บอกลาความเหม็น! 10 วิธี แก้กลิ่นอับในรถยนต์ สัมผัสอากาศสดชื่นเหมือนใหม่
บอกลาความเหม็น! 10 วิธี แก้กลิ่นอับในรถยนต์ สัมผัสอากาศสดชื่นเหมือนใหม่

กลิ่นอับในรถยนต์เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นจากการสะสมของฝุ่น ความชื้น หรือแม้แต่การทิ้งอาหารหรือเครื่องดื่มไว้ในรถ การมีกลิ่นอับในรถยนต์ไม่เพียงแต่ทำให้การขับขี่ไม่สบาย แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วย บทความนี้จะนำเสนอ 10 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถแก้ปัญหากลิ่นอับในรถยนต์และทำให้อากาศในรถสดชื่นเหมือนใหม่

หัวข้อ

10 วิธีแก้กลิ่นอับในรถยนต์ให้สดชื่น

1. ล้างทำความสะอาดเบาะและพรมอย่างละเอียด: ปฏิบัติการขจัดกลิ่นที่ซ่อนอยู่

กลิ่นอับมักจะซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบ รอยต่อ และรอยเย็บของเบาะ พรม และพื้นรถ การล้างทำความสะอาดอย่างทั่วถึงจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำจัดกลิ่น ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษฝุ่น ขนสัตว์ และสิ่งสกปรกออกอย่างละเอียด ควรดูดทั้งด้านบน ด้านล่าง และด้านข้างของเบาะ รวมถึงบริเวณใต้เบาะ รอยต่อ และรอยเย็บ

หลังจากดูดฝุ่นแล้ว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเบาะและพรมแบบเฉพาะทางเช็ดให้ทั่วถึง อย่าลืมเช็ดด้านล่างของเบาะ และบริเวณที่สัมผัสกับพื้น เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับวัสดุของเบาะ และควรอ่านฉลากคำแนะนำการใช้งานก่อน

2. ซักพรมปูพื้น: แหล่งสะสมกลิ่นอับ ต้องจัดการ!

พรมปูพื้นรถเปรียบเสมือนผ้าเช็ดเท้าที่รับหน้าที่ดูดซับฝุ่น สิ่งสกปรก และความชื้น ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมกลิ่นอับ ควรนำไปซักด้วยน้ำยาซักพรมแบบเฉพาะทาง หรือน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาซักพรมตามคำแนะนำบนฉลาก ซักอย่างน้อยเดือนละครั้ง หลังจากซัก ควรตากแดดให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ

3. ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อและดับกลิ่น: ฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่นอับได้ผลจริง

น้ำยาฆ่าเชื้อและดับกลิ่นที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมีส่วนผสมในการฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่น สามารถกำจัดกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นจากสัตว์เลี้ยงได้ ควรฉีดพ่นบริเวณที่เกิดกลิ่นอับ เช่น เบาะ พรม คอนโซล ช่องแอร์ และใต้เบาะ เลือกน้ำยาที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และปล่อยให้แห้งสนิทก่อนใช้งานรถ

4. ใช้ถ่านกัมมันต์: วิธีธรรมชาติ ดูดซับกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ่านกัมมันต์เป็นวัสดุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ วางถุงถ่านกัมมันต์ไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดกลิ่นอับ เช่น ใต้เบาะ คอนโซล หรือวางไว้ในถุงผ้าตาข่ายและแขวนไว้ ควรเปลี่ยนถ่านกัมมันต์ใหม่ทุกๆ 3-6 เดือน หรือเมื่อถ่านกัมมันต์เริ่มดูดซับกลิ่นได้น้อยลง

5. ใช้เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์: อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น ตลอดการเดินทาง

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์มีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่น ละอองเกสร และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้อากาศในรถยนต์สดชื่น สะอาด และปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันการทำงานที่เหมาะสมและมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ

6. ปรับอากาศรถยนต์: เปิดแอร์ เปิดกระจก ลดกลิ่นอับได้ง่ายๆ

การเปิดแอร์และเปิดกระจกรถยนต์เป็นวิธีง่ายๆ ในการลดกลิ่นอับในรถยนต์ เปิดแอร์และปรับอุณหภูมิให้เย็น จากนั้นเปิดกระจกรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้ระบายอากาศ ประมาณ 15-20 นาที หลังจากนั้นปิดกระจกและเปิดระบบปรับอากาศให้ทำงานต่อเนื่อง เพื่อดูดความชื้นและลดกลิ่นอับ

7. ใช้สเปรย์ดับกลิ่นแบบธรรมชาติ: น้ำส้มสายชู กำจัดกลิ่นอับแบบปลอดภัย

น้ำส้มสายชูเป็นสารธรรมชาติที่ช่วยกำจัดกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 ใส่ในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่เกิดกลิ่นอับ เช่น เบาะ พรม คอนโซล และช่องแอร์ ควรเปิดกระจกรถให้ระบายอากาศหลังจากฉีดพ่นเพื่อป้องกันกลิ่นน้ำส้มสายชูตกค้าง

8. ใช้กาแฟคั่ว: กลิ่นหอม ช่วยดูดซับกลิ่นอับได้อย่างดี

กาแฟคั่วมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและมีกลิ่นหอม ช่วยลดกลิ่นอับในรถยนต์ได้อย่างดี นำเมล็ดกาแฟคั่วใส่ในถุงผ้าตาข่ายแล้ววางไว้ในรถยนต์บริเวณที่เกิดกลิ่นอับหรือในช่องเก็บของ

9. ตากแดดรถยนต์: แสงแดดฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แสงแดดเป็นวิธีธรรมชาติในการฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นอับในรถยนต์ ควรนำรถยนต์ไปตากแดดเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน เปิดประตู หน้าต่าง และหลังคารถยนต์ให้แสงแดดส่องเข้าไปภายในรถ

10. หมั่นทำความสะอาดรถยนต์เป็นประจำ: ป้องกันกลิ่นอับได้ตั้งแต่ต้นทาง

การทำความสะอาดรถยนต์เป็นประจำช่วยลดการสะสมของฝุ่น สิ่งสกปรก และเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับ ควรเช็ดฝุ่น ดูดฝุ่น และล้างรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง

บอกลาความเหม็น! 10 วิธี แก้กลิ่นอับในรถยนต์ สัมผัสอากาศสดชื่นเหมือนใหม่

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • เลี่ยงการสูบบุหรี่ในรถยนต์ : บุหรี่ เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับ และสารพิษในรถยนต์ ควรเลี่ยงการสูบบุหรี่ ในรถยนต์
  • นำอาหารและเครื่องดื่มออกจากรถยนต์ : อาหารและเครื่องดื่ม อาจส่งกลิ่นอับ และเชื้อรา ได้ ควรนำออกจากรถ หลังจากใช้งานเสร็จ
  • ใช้ถุงขยะแบบมีฝาปิด : ถุงขยะ เป็นแหล่งสะสมกลิ่น ควรใช้ถุงขยะแบบมีฝาปิด เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น
  • ตรวจสอบระบบปรับอากาศ : ระบบปรับอากาศ เป็นแหล่งสะสมเชื้อรา และกลิ่นอับ ควรทำความสะอาด และตรวจสอบระบบปรับอากาศ เป็นประจำ
  • ใช้แผ่นรองเบาะรถ : แผ่นรองเบาะรถ ช่วยป้องกัน และดูดซับสิ่งสกปรก และความชื้น
  • ตรวจสอบระบบระบายอากาศ : ระบบระบายอากาศ ในรถยนต์ ควรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย : เลือกเบาะ พรม และวัสดุตกแต่งภายในรถยนต์ ที่ดูแลรักษาง่าย และป้องกันกลิ่นอับ
  • พรมปูพื้นรถยนต์ : เลือกพรมปูพื้นรถยนต์ ที่ทำจากวัสดุกันน้ำ และซักทำความสะอาดได้ง่าย
  • เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม : เลือกน้ำยาทำความสะอาด ที่เหมาะสมกับวัสดุของเบาะ พรม และวัสดุตกแต่งภายในรถยนต์

สรุป

การแก้กลิ่นอับในรถยนต์ไม่ยากเกินไป หากรู้วิธีการและปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง การดูแลรักษาความสะอาดและการใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อดูดกลิ่นจะช่วยให้รถยนต์ของคุณมีกลิ่นสดชื่นเหมือนใหม่ อย่าลืมทำความสะอาดรถยนต์อย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามวิธีการที่แนะนำ เพื่อให้การขับขี่ของคุณและผู้โดยสารเป็นไปอย่างสบายและสุขภาพดี

ติดต่อเรา | จองซื้อ & ทดลองขับ

อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ติดต่อ BYD BD Auto Group ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

ป้ายกำกับ

BYD BD Auto Group

ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD

หมวดหมู่

บทความที่เกี่ยวข้อง

econ2 (Web H)

ระบบระบายความร้อนคืออะไร? การทำงาน และความสำคัญในเ...

ระบบระบายความร้อน (Cooling System) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรร...
Tire rotation cover

การสลับยางคืออะไร? วิธีที่ถูกต้องและประโยชน์ที่คุณ...

การดูแลยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื...
Tire Tread cover

หน้ายางคืออะไร? ความสำคัญและวิธีการเลือกใช้ยางที่เ...

หน้ายาง (Tire Tread) เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของยางรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการค...
Continental eContact cover

ยาง Continental รุ่น eContact ยางรถยนต์ไฟฟ้าพลังงา...

Continental ยางสัญชาติเยอรมันได้ออกแบบยางรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะในรุ่น eContact ซึ่ง...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD เสน่...

ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประว...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวหาดป่าตองภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD สีสันของ...

หาดป่าตอง (Patong Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต แ...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวแหลมพรหมเทพกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD พบกับจุดชมวิ...

แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape) ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหว...
dolm12 (Web H)

เที่ยวหาดกลมากับรถยนต์ไฟฟ้า BYD สัมผัสธรรมชาติอย่า...

หาดกลมา (Kalama Beach) เป็นหนึ่งในหาดลับที่ซ่อนตัวอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต...