แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal พลังงานสะอาดที่เหนือชั้น

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการลดการปล่อยมลพิษและประหยัดพลังงาน หนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นในตลาดนี้คือ BYD (Build Your Dreams) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก หนึ่งในนวัตกรรมที่ทำให้ BYD Seal เป็นที่น่าจับตามองคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักในบทความนี้

ความหมายของชื่อ BYD SEAL

มีความหมายมาแมวน้ำ เป็นหนึ่งในรถยนต์ตระกูล Ocean มาในรูปแบบ Sedan 4 ประตู และแนวคิดในการออกแบบรถคันนี้ก็มาจากความสวยงามของท้องทะเล คล้ายๆ กับ BYD DOLPHIN ภายนอกจะมาในรูปทรงสปอร์ตซีดาน แต่พอได้เจอตัวจริงส่วนตัวเรามองว่าสวยกว่าในรูป ดูบางลง ภายในดูกว้างขวางไม่อึดอัด คงเพราะให้หลังคากระจกมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และที่สำคัญภายในดูเรียบกว่า ATTO 3

Ocean X Face

ดีไซน์ภายใต้คอนเซปต์ศิลปะแห่งท้องทะเล ตามแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ของ BYD Ocean Series กับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวกว่าเคย ด้วยด้านหน้ารถแบบ X Face ที่ผสานความเป็นสปอร์ตและความเรียบหรูเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ความสำคัญของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า

แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนรถ การมีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ามีระยะทางการขับขี่ที่ยาวนาน และมีความสามารถในการเร่งความเร็วที่ดี นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังมีผลต่อระยะเวลาการชาร์จและอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal

BYD Seal มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ที่มีความจุสูง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความทนทานสูงที่สุด แบตเตอรี่ของ BYD Seal มีความจุอยู่ในช่วง 60-80 kWh ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ระยะทางยาวถึง 300-400 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

คุณสมบัติเด่นของแบตเตอรี่ BYD Seal

1. ความจุสูงและประสิทธิภาพเยี่ยม
   • แบตเตอรี่ของ BYD Seal มีความจุสูง ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
   • มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
2. ระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging)
   • BYD Seal มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 30-45 นาที
   • ระบบชาร์จเร็วนี้ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ลดเวลาการรอคอยของผู้ใช้งาน
3. ความปลอดภัยสูง
   • แบตเตอรี่ของ BYD Seal ผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
   • ระบบจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management System: BMS) ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิและการทำงานของแบตเตอรี่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
4. การออกแบบที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
   • แบตเตอรี่ของ BYD Seal ถูกออกแบบให้มีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
   • มีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

การบำรุงรักษาและการรีไซเคิลแบตเตอรี่

BYD ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาและการรีไซเคิลแบตเตอรี่ เพื่อให้การใช้งานแบตเตอรี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้งานสามารถเข้ารับบริการตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่ได้ที่ศูนย์บริการของ BYD ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล นอกจากนี้ BYD ยังมีโครงการรีไซเคิลแบตเตอรี่เพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานเสร็จแล้วจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

ราคาแบตเตอรี่ BYD Seal

ราคาของแบตเตอรี่ BYD Seal สามารถแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น ขนาด, รุ่น, และเงื่อนไขการซื้อที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งและบริการหลังการขาย

สำหรับประเทศไทย ราคาของแบตเตอรี่ BYD Seal (รุ่นที่มีแบตเตอรี่ 82.5 kWh) อยู่ที่ประมาณ 200,000 – 250,000 บาท แต่ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่าย BYD หรือศูนย์บริการของ BYD ในพื้นที่ของคุณเพื่อข้อมูลที่แม่นยำและอัปเดตที่สุด

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นหรือรายละเอียดเฉพาะของแบตเตอรี่ การติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการ BYD โดยตรงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ความหมายของสีใน BYD SEAL สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ในยนตรกรรม

• สีฟ้า (BYD SEAL Velocity Blue) BYD SEAL รุ่น AWD Performance มาพร้อมกับสีฟ้า Velocity Blue ซึ่งเป็นสีเด่นในการโปรโมท สีนี้สะท้อนความเร็วและความสปอร์ตอันทรงพลัง โดยคำว่า “Velocity” ในทางฟิสิกส์หมายถึง อัตราการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของวัตถุหรือ “ความเร็ว” สีนี้จึงเป็นตัวแทนของความรวดเร็ว ล้ำสมัย และความเป็นผู้นำ สมกับเป็นสีของรุ่นท็อปอย่างแท้จริง
• สีเทา (BYD SEAL Space Grey) อีกหนึ่งสีที่ได้รับความนิยมคือ Space Grey ซึ่งเป็นสีเทาที่มีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศ สีนี้แสดงถึงความหรูหราและทันสมัย มักพบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์ ตั้งแต่แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึงรถไฟฟ้า สีเทานี้จึงเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในรุ่นรองจาก AWD Performance
• สีขาว (BYD SEAL Horizon White) Horizon White เป็นสีขาวคลาสสิกที่ไม่เคยล้าสมัย คำว่า “Horizon” หมายถึงเส้นขอบฟ้าอันกว้างไกล สื่อถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด ความฝัน และความหวัง สีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักในอิสรภาพและการเดินทาง
• สีดำ (BYD SEAL Quantum Black) Quantum Black สีดำที่เต็มไปด้วยความดุดันและเคร่งขรึม คำว่า “Quantum” มาจากฟิสิกส์ที่หมายถึงหน่วยพื้นฐานของสิ่งต่างๆ ในโลกขนาดจิ๋ว หากนำมาใช้ในเชิงเทคโนโลยี Quantum สื่อถึงความล้ำสมัย ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง และความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สีนี้จึงเป็นตัวแทนของความฉลาดและความเป็นอัจฉริยะ

สีของ BYD SEAL ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สีของรถยนต์ แต่ยังสื่อถึงแนวคิดและคุณลักษณะเฉพาะของแต่ละรุ่นอีกด้วย

ถุงลมนิรภัย 9

ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง: ความปลอดภัยรอบด้าน BYD SEAL มาพร้อมถุงลมนิรภัยถึง 9 ตำแหน่ง ได้แก่

1. ถุงลมด้านหน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (2 ตำแหน่ง)
2. ถุงลมด้านข้างตอนหน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสาร (4 ตำแหน่ง)
3. ม่านถุงลมด้านข้างเหนือกระจกทั้ง 4 บาน (2 ตำแหน่ง)
4. ถุงลมด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (2 ตำแหน่ง)

ตำแหน่งของถุงลมนิรภัยสามารถสังเกตได้จากป้ายที่เขียนว่า “Airbag”

ความแตกต่างของรุ่น BYD Seal

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal ที่จำหน่ายในไทย มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Dynamic, Premium, และ Performance โดยแต่ละรุ่นมีดีไซน์ที่คล้ายกันมาก จนแทบแยกไม่ออกจากภายนอก แต่สามารถแยกได้จากล้ออัลลอยและเฉดสีตัวถัง ดังนี้

1. รุ่น Dynamic
   • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
   • เฉดสีตัวถังมีเพียง สีขาว และ สีดำ
2. รุ่น Premium
   • ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
   • เพิ่มเฉด สีเทา
3. รุ่น Performance
   • ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
   • เฉด สีฟ้า สำหรับรุ่นท็อป

ในด้านมิติตัวถัง ทั้งสามรุ่นมีขนาดเท่ากันที่

• ยาว 4,800 มม.
• กว้าง 1,875 มม.
• สูง 1,460 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,920 มม.
• ระยะความสูงจากพื้นถนน 120 มม.
  จัดเป็นรถในระดับ D-segment ซึ่งเมื่อเทียบกับ Tesla Model 3 แล้ว ถือว่าใหญ่กว่าอย่างชัดเจน

ภายในห้องโดยสาร

ห้องโดยสารของ BYD Seal สะท้อนถึงความสปอร์ตและหรูหรา เบาะนั่งบักเกตซีตทรงสปอร์ตที่โอบรับตัวผู้ขับขี่อย่างดี เพิ่มความโดดเด่นด้วยคันเกียร์ไฟฟ้าหัวคริสตัลและปุ่มควบคุมที่จัดวางอย่างลงตัว พร้อมแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 2 ช่อง จอแสดงผลหลักหมุนได้ และระบบแอร์อัตโนมัติที่ต้องปรับผ่านจอส่วนกลาง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาคุ้นเคยในการใช้งาน

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 2 ชั้น เคลือบด้วย Silver-plated มีขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตร.ม. ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด และทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบาย แม้ว่าพื้นที่ Headroom จะน้อยสำหรับผู้โดยสารที่มีความสูงมากๆ

ระบบความปลอดภัย

BYD Seal มาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบครันกว่า 20 ระบบ รวมถึงถุงลมนิรภัย 9 ใบในทุกรุ่นย่อย

ขุมพลังและสมรรถนะ

แต่ละรุ่นย่อยมีขนาดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าแตกต่างกัน

• รุ่น Dynamic
  • มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว วางที่ล้อหลัง
  • กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
  • แรงบิด 310 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 61.44 kWh
  • รองรับการชาร์จไฟฟ้า (DC) สูงสุด 110 kW
  • ระยะทางสูงสุด 510 กม. (มาตรฐาน NEDC)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที
• รุ่น Premium
  • มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว วางที่ล้อหลัง
  • กำลังสูงสุด 313 แรงม้า
  • แรงบิด 360 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 82.56 kWh
  • รองรับการชาร์จไฟฟ้า (DC) สูงสุด 150 kW
  • ระยะทางสูงสุด 650 กม. (มาตรฐาน NEDC)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที
• รุ่น Performance
  • มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (หน้า-หลัง)
  • กำลังรวมสูงสุด 530 แรงม้า
  • แรงบิด 670 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ Blade ขนาด 82.56 kWh
  • ระยะทางสูงสุด 580 กม. (มาตรฐาน NEDC)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที

โครงสร้างตัวถัง

BYD Seal ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Cell to Body 3.0 โดยวางชุดแบตเตอรี่ Blade Battery ติดไปกับโครงสร้างตัวถังบริเวณด้านล่างรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงของช่วงล่างและเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

สัมผัสความเร้าใจของแต่ละรุ่นย่อย

ในการทดสอบครั้งนี้ ทีมงานได้เริ่มต้นจากรุ่น Dynamic ที่ Davin Cafe รุ่นนี้เป็นรุ่นพื้นฐานที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลัง 204 แรงม้า ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นพื้นฐาน แต่อัตราเร่งก็ไม่ธรรมดา การเร่งแซงทำได้ง่ายและทันใจ ด้วยการออกแบบตัวรถที่เน้นความลู่ลม ประกอบกับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (cd) ที่ต่ำเพียง 0.219 ทำให้รถพุ่งทะยานไปได้อย่างง่ายดาย

การควบคุมรถทำได้ดี ระบบช่วยเหลือในการขับขี่อาจจะสร้างความรำคาญบ้าง เช่น ระบบเตือนเปลี่ยนเลนหรือระบบเตือนรถสวนทางที่ดึงพวงมาลัยจนตกใจได้ แต่สามารถปิดได้ ระบบช่วงล่างให้ความนุ่มนวล และตัวรถนิ่งขณะใช้ความเร็วสูง ถึงแม้รูปลักษณ์จะดูใหญ่โต แต่ด้วยพละกำลังที่มีอยู่ทำให้การเร่งแซงเป็นไปได้อย่างง่ายดาย

หลังจากนั้น ทีมงานได้เปลี่ยนมาทดสอบรุ่น Performance ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลัง 531 แรงม้า ความรู้สึกในการขับขี่แตกต่างจากรุ่น Dynamic อย่างชัดเจน รุ่น Performance มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที การเร่งความเร็วทำได้ในพริบตา และสามารถกระแทกพนักพิงได้ทันทีที่กดคันเร่ง ระบบช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนด้านหน้าและ 5 ลิงค์ด้านหลังให้ความรู้สึกหนักแน่น นุ่มหนึบในสไตล์สปอร์ต

ระบบโช๊คอัพในรุ่นนี้ปรับได้อัตโนมัติตามความเร็วด้วยเทคโนโลยี Frequency Selective Damping (FSD) ซึ่งปรับความนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น Performance ให้ความมั่นคงดีมากแม้ในขณะขับขี่แบบสลาลอม หรือการหักเลี้ยวแบบโดนัท ระบบ iTAC ช่วยตัดแรงบิดเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เพื่อให้การขับขี่ในโค้งเป็นไปได้อย่างมั่นคง

สุดท้าย ทีมงานได้ทดสอบรุ่น Premium ซึ่งเป็นรุ่นย่อยระดับกลางในการเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 82.56kWh ซึ่งสามารถวิ่งได้ระยะไกลถึง 650 กม. พละกำลัง 313 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที ถึงแม้จะไม่แรงเท่ารุ่น Performance แต่ก็ยังคงให้ความสนุกในการขับขี่ ระบบช่วงล่างยังคงความนุ่มนวลและหนึบแน่นเช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ รุ่น Premium นี้ถือเป็นรุ่นที่มีความสมดุลระหว่างความแรงและการใช้งานระยะไกล ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความเร็วและความสะดวกในการเดินทางโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ

สรุป

แบตเตอรี่ของ BYD Seal ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นที่น่าสนใจ ด้วยความจุที่สูง ระบบชาร์จเร็ว และความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ทำให้ BYD Seal เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบำรุงรักษาและการรีไซเคิลแบตเตอรี่ยังเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของ BYD ที่น่าชื่นชม

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัย BYD Seal คือคำตอบที่ไม่ควรพลาด

ติดต่อเรา | จองซื้อ & ทดลองขับ

อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ติดต่อ BYD BD Auto Group ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

• ที่อยู่: 607 ถ.เพชรเกษม ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (สาขาหาดใหญ่)
• Facebook: BYD BD Auto Group ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีรายใหญ่สุดในภาคใต้
• LINE: @bydbdsongkhla
• เบอร์โทร: 074 805 656 (สาขาหาดใหญ่)
• สาขาของ BYD BD Auto Group
  • BYD สาขาสงขลา (หาดใหญ่)
  • BYD สาขาตรัง
  • BYD สาขานราธิวาส
  • BYD สาขาทุ่งสง
  • BYD สาขาภูเก็ต
  • BYD สาขาภูเก็ตบายพาส
  • BYD สาขานครศรีธรรมราช
  • BYD สาขากระบี่
• เว็บไซต์: www.bydbdautogroup.com
• แผนที่: BYD BD Auto Songkhla (สาขาหาดใหญ่)