ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใช้จริงคุ้มจริงแค่ไหน? [อัปเดต 2025]

/
/
ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใช้จริงคุ้มจริงแค่ไหน? [อัปเดต 2025]
BYD BD Auto Group

ในยุคที่เทคโนโลยีและพลังงานสะอาดกลายเป็นแนวทางหลักของโลก “รถยนต์ไฟฟ้า” (Electric Vehicle: EV) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เพราะนอกจากจะช่วยลดมลพิษแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำกว่ารถยนต์เครื่องยนต์น้ำมันแบบเดิมอย่างชัดเจน

บทความนี้เรา BYD BD Auto Group จะพาคุณมาวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งในด้านการชาร์จไฟ การบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายแฝง และการเปรียบเทียบกับรถยนต์น้ำมัน เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมของความคุ้มค่า

ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมความแตกต่างของค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมัน

ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

1. ค่าไฟฟ้าสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ค่าใช้จ่ายหลักของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือ “ค่าไฟฟ้า” สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถคำนวณได้จากอัตราค่าไฟ (บาท/หน่วย หรือ kWh) และความจุแบตเตอรี่ของรถ

ตัวอย่างการคำนวณ

  • รถ EV ขนาดแบตเตอรี่ 50 kWh
  • อัตราค่าไฟเฉลี่ย 4 บาท/หน่วย
    • ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง = 50 × 4 = 200 บาท สามารถวิ่งได้ระยะทางเฉลี่ย 400-450 กิโลเมตร

เทียบกับรถยนต์น้ำมันที่ใช้น้ำมันเบนซินราคา 30 บาทต่อลิตร จะต้องใช้ถึง 1,200-1,500 บาท สำหรับระยะทางเดียวกัน! นั่นหมายความว่า รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดกว่า 5-7 เท่า ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

2. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้าน (Home Charger)

เจ้าของรถ EV ส่วนใหญ่มักติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านเพื่อความสะดวก โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ในช่วง 10,000 – 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับกำลังชาร์จ (7 kW / 11 kW) และระบบไฟของบ้าน

แต่ปัจจุบันแบรนด์ชั้นนำ เช่น BYD, Denza, และ Tesla มักจัดโปรโมชั่นแถม Home Charger ฟรีพร้อมติดตั้ง
ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้แทบไม่ต้องออกเอง

3. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบที่ซับซ้อนน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันอย่างมาก เพราะไม่มีเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ หรือน้ำมันเครื่อง
ดังนั้นจึงมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า 50-70%

รายการบำรุงรักษาที่พบบ่อย

  • ตรวจสอบระบบเบรก
  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่
  • เปลี่ยนน้ำมันเบรก / น้ำหล่อเย็นแบตเตอรี่ (บางรุ่น)

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย: 3,000 – 10,000 บาท/ปี เท่านั้น!

ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมความแตกต่างของค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมัน

4. ค่าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยสูงกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 5-10%) เนื่องจากค่าอะไหล่และแบตเตอรี่มีราคาสูงกว่า แต่หลายบริษัทประกันได้ออกแผนเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การรับประกันแบตเตอรี่ หรือส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้ EV ที่มีประวัติการขับดี

โดยทั่วไปเบี้ยประกันจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นและมูลค่าของรถ

5. ค่าใช้จ่ายในการชาร์จนอกบ้าน (Public Charging)

สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลหรือไม่มีที่ชาร์จในบ้าน อาจต้องใช้สถานีชาร์จสาธารณะ เช่น EA Anywhere, PEA Volta, หรือ EV Station PluZ

อัตราค่าชาร์จโดยเฉลี่ย

  • AC Normal Charge: 4–5 บาทต่อ kWh
  • DC Fast Charge: 6–10 บาทต่อ kWh

ตัวอย่าง

รถแบตเตอรี่ 50 kWh ชาร์จเร็วเต็ม 80% จะใช้ไฟประมาณ 40 kWh × 7 บาท = 280 บาท ใช้เวลาเพียง 30-45 นาที ก็พร้อมเดินทางต่อได้

6. ค่าบำรุงรักษาแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานเฉลี่ย 8–10 ปี หรือประมาณ 150,000-200,000 กิโลเมตร โดยหลังจากนั้นความจุอาจลดลงราว 10–20%

ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

  • อยู่ที่ประมาณ 100,000 – 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม แบรนด์อย่าง BYD รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม. และใช้เทคโนโลยี Blade Battery ที่ทนทาน ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าทั่วไป

ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมความแตกต่างของค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมัน

ความแตกต่างของค่าใช้จ่ายระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมัน

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน มาดูการเปรียบเทียบในแต่ละด้านระหว่าง “EV” และ “รถยนต์น้ำมัน”

ประเภทค่าใช้จ่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV)รถยนต์น้ำมัน (ICE)
เชื้อเพลิงประมาณ 200 บาท/400 กม.ประมาณ 1,200 บาท/400 กม.
บำรุงรักษา3,000–10,000 บาท/ปี10,000–20,000 บาท/ปี
ประกันภัยสูงกว่าเล็กน้อยปกติ
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่า (เทคโนโลยีใหม่)ต่ำกว่า
ค่าใช้จ่ายระยะยาวประหยัดกว่าสูงกว่า
ค่าชาร์จที่บ้าน10,000–50,000 บาท (ครั้งเดียว)ไม่มี
ค่าชาร์จนอกบ้าน5–10 บาท/kWhไม่มี (เติมน้ำมันแทน)
ค่าบำรุงแบตเตอรี่100,000–300,000 บาท (เมื่อครบอายุ)ไม่มี
รถยนต์ไฟฟ้า BYD BD Auto Group โปรโมชั่น

สรุปค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อคำนวณรวมระยะยาว EV กลับมีต้นทุนการใช้งานที่ต่ำกว่า 40-60% เพราะไม่มีค่าน้ำมันและค่าซ่อมระบบเครื่องยนต์

ข้อดีที่ชัดเจนของรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่

  • ค่าไฟถูกกว่าน้ำมันหลายเท่า
  • ค่าซ่อมและบำรุงรักษาต่ำ
  • ใช้พลังงานสะอาด ปลอดมลพิษ
  • ได้รับสิทธิ์ลดภาษีและเงินอุดหนุนจากภาครัฐ
  • เทคโนโลยีแบตเตอรี่ปลอดภัยขึ้น และชาร์จได้รวดเร็ว

หากมองในมุมการลงทุนระยะยาว รถยนต์ไฟฟ้าคือ “ทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน” ทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

ติดต่อเรา | จองซื้อ & ทดลองขับ

อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ติดต่อ BYD BD Auto Group ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

econ2 (Web H)

ระบบระบายความร้อนคืออะไร? การทำงาน และความสำคัญในเ...

ระบบระบายความร้อน (Cooling System) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรร...
byd seal 5 cover

BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid (ซุปเปอร์ไฮบริด) รถยน...

BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid (ซุปเปอร์ไฮบริด) คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่า...
Tire rotation cover

การสลับยางคืออะไร? วิธีที่ถูกต้องและประโยชน์ที่คุณ...

การดูแลยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื...
Tire Tread cover

หน้ายางคืออะไร? ความสำคัญและวิธีการเลือกใช้ยางที่เ...

หน้ายาง (Tire Tread) เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของยางรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการค...
Continental eContact cover

ยาง Continental รุ่น eContact ยางรถยนต์ไฟฟ้าพลังงา...

Continental ยางสัญชาติเยอรมันได้ออกแบบยางรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะในรุ่น eContact ซึ่ง...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD เสน่...

ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประว...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวหาดป่าตองภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD สีสันของ...

หาดป่าตอง (Patong Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต แ...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวแหลมพรหมเทพกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD พบกับจุดชมวิ...

แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape) ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหว...