รถยนต์ไฟฟ้า EREV คืออะไร? ทางเลือกใหม่ระหว่าง EV และไฮบริดที่คุณควรรู้จัก

เมื่อพูดถึง “รถยนต์ไฟฟ้า” หลายคนมักนึกถึงรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน (BEV – Battery Electric Vehicle) หรือรถยนต์ไฮบริดที่มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ยังมีอีกประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้าแบบ EREV หรือ Extended-Range Electric Vehicle

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า EREV คืออะไร? ทำงานอย่างไร? มีข้อดีอย่างไรบ้าง? และมีรุ่นไหนที่วางจำหน่ายในประเทศไทยบ้าง?

รถยนต์ไฟฟ้า EREV คืออะไร?

EREV (Extended-Range Electric Vehicle) คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่มี เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ติดตั้งเพิ่มเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ ผลิตไฟฟ้า ชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อแบตหมด หรือไม่เพียงพอในการเดินทาง

ต่างจากรถไฮบริดทั่วไป ที่ทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ช่วยขับเคลื่อนรถ EREV จะใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวตลอดเวลา เครื่องยนต์ใน EREV จะทำหน้าที่คล้าย “เครื่องปั่นไฟ” เท่านั้น

หลักการทำงานของรถยนต์ EREV

1. ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากแบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็ม
2. เมื่อแบตใกล้หมดเครื่องยนต์จะทำงานโดยอัตโนมัติ
3. เครื่องยนต์จะไม่ส่งกำลังไปยังล้อ แต่ใช้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้มอเตอร์ไฟฟ้าใช้งานต่อไป
4. ระบบนี้ช่วยให้รถสามารถวิ่งต่อได้ระยะไกลโดยไม่ต้องหาจุดชาร์จทันที!

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าแบบ EREV (Extended-Range Electric Vehicle)

รถยนต์ไฟฟ้าแบบ EREV เป็นนวัตกรรมที่รวมเอาจุดแข็งของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) เข้ากับความยืดหยุ่นของระบบไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) โดยเน้นการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก แต่มีเครื่องยนต์ช่วยต่อระยะทาง ทำให้เกิดข้อดีมากมายที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รถในยุคใหม่ ดังนี้

1. ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางทาง

หนึ่งในความกังวลหลักของผู้ใช้รถ EV คือ “ระยะทางที่จำกัด” และ “สถานีชาร์จที่ยังไม่ทั่วถึง” ซึ่งรถ EREV เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้อย่างชัดเจน

• เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานอัตโนมัติเพื่อผลิตไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์
• ผู้ขับสามารถเดินทางต่อได้ โดยไม่ต้องหยุดชาร์จทันที
• เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางไกลหรืออยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีโครงข่ายชาร์จไฟเพียงพอ

หมายเหตุ : ทำให้คุณมั่นใจได้แม้ต้องเดินทางต่างจังหวัดหรือในเส้นทางที่ไม่มีสถานีชาร์จ

2. ขับด้วยไฟฟ้าล้วนในชีวิตประจำวัน

สำหรับผู้ที่ใช้งานในเมืองเป็นหลักหรือขับขี่ในระยะสั้น รถยนต์ EREV สามารถใช้งานได้เหมือนรถ EV โดยสมบูรณ์

• สามารถชาร์จแบตเตอรี่อย่างเดียวที่บ้านหรือจุดชาร์จใกล้บ้าน
• ขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ โดยไม่ปล่อยมลพิษ
• เงียบ, ประหยัด, และตอบสนองดีในทุกจังหวะการขับขี่ในเมือง

หมายเหตุ : เหมาะกับผู้ใช้รถในชีวิตประจำวัน ที่ต้องการลดค่าน้ำมันแต่ยังไม่มั่นใจใน EV ล้วน

3. วิ่งไกลกว่า EV ทั่วไป

ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนอีกอย่างของ EREV คือระยะทางรวมที่มากกว่ารถ EV ล้วนหลายเท่า

• ขับด้วยไฟฟ้าได้ 100–180 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
• เมื่อรวมกับพลังงานจากเครื่องยนต์ Range Extender รถบางรุ่นสามารถวิ่งได้กว่า 1,000–2,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ/เติมน้ำมัน
• เหมาะกับผู้ที่เดินทางไกลหรือเดินทางบ่อย โดยไม่ต้องชาร์จทุกครั้ง

หมายเหตุ : ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และการเดินทางระยะไกลแบบมั่นใจ

4. ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย

แม้จะมีเครื่องยนต์ แต่รถ EREV ก็ยังประหยัดกว่ารถน้ำมันทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

• ค่าชาร์จไฟต่ำกว่าค่าน้ำมันมาก (เฉลี่ยเพียง 0.5–1.5 บาท/กม.)
• ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามีชิ้นส่วนสึกหรอน้อยกว่าระบบสันดาป
• ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หัวเทียน สายพาน ฯลฯ บ่อยเท่ารถน้ำมัน

หมายเหตุ : ลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งรายเดือน และค่าซ่อมระยะยาว

5. ลดมลพิษในเขตเมือง

รถ EREV ช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้มาก โดยเฉพาะในเขตเมืองที่แออัด

• การขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน (CO₂) และฝุ่น PM2.5
• ลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ทำให้เมืองน่าอยู่ยิ่งขึ้น
• ช่วยให้ภาคการขนส่งมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม

หมายเหตุ : เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ยังต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทาง

ความแตกต่างระหว่าง BEV, HEV, PHEV และ EREV

ตัวอย่างรถยนต์ EREV ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย

1. BYD Qin L DM-i

• ซีดานที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินเป็น Range Extender
• วิ่งไฟฟ้า ~120 กม. / พิสัยรวม ~2,100 กม.

2. BYD Sealion 6 DM-i (Song Plus DM-i)

• SUV EREV ที่ตอบโจทย์ครอบครัว
• วิ่งไฟฟ้า ~100–115 กม. / พิสัยรวม >1,000 กม.

3. BYD Yangwang U8

• SUV หรูระดับ Flagship
• วิ่งไฟฟ้า ~180 กม. / พิสัยรวม ~1,000 กม. ด้วยระบบขับ 4 มอเตอร์ + Range Extender

สรุป

รถยนต์ไฟฟ้า EREV คือตัวเลือกกลางระหว่างความสะดวกของ EV และความยืดหยุ่นของรถไฮบริด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ด้วยไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน แต่ยังต้องเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องจุดชาร์จไฟ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและสมดุลทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ความประหยัด และ ความมั่นใจในการใช้งานจริง

แหล่งอ้างอิง

• www.researchgate.net

ติดต่อเรา

• ที่อยู่ : 607 ถ.เพชรเกษม ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (สาขาหาดใหญ่)
• Facebook : BYD BD Auto Group ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีรายใหญ่สุดในภาคใต้
• LINE : @bydbdsongkhla
• สาขาของ BYD BD Auto Group
  • สาขาสงขลา (หาดใหญ่)
  • สาขาตรัง
  • สาขานราธิวาส
  • สาขาทุ่งสง
  • สาขาภูเก็ต
  • สาขาภูเก็ตบายพาส
  • สาขานครศรีธรรมราช
  • สาขากระบี่
• เบอร์โทรติดต่อ : 074 805 656 (สาขาหาดใหญ่)
• เว็บไซต์ : www.bydbdautogroup.com