ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (Electronic Stability Program - ESP) เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

/
/
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (Electronic Stability Program – ESP) เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
BYD BD Auto Group

หนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนคือ การสูญเสียการควบคุมรถ ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าโค้งเร็วเกินไป การเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือการขับขี่บนถนนลื่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (Electronic Stability Program – ESP) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Electronic Stability Control (ESC) ถูกพัฒนาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้

ESP เป็นระบบที่ช่วยให้รถคงเสถียรภาพขณะขับขี่ โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการลื่นไถลของรถ และช่วยควบคุมการทำงานของเบรกและเครื่องยนต์เพื่อรักษาสมดุลของรถให้มั่นคง ระบบนี้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นในสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ว่า ESP คืออะไร? ทำงานอย่างไร? และมีข้อดีอะไรบ้าง?

Electronic Stability Program (ESP) คืออะไร และทำงานอย่างไร?

Electronic Stability Program (ESP) เป็นระบบที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถเสียการทรงตัวโดยการควบคุมแรงเบรกและกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสม

หลักการทำงานของ ESP

  1. ตรวจจับการทรงตัวของรถ – ระบบใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ในตัวรถเพื่อตรวจจับการเคลื่อนที่ของพวงมาลัย การหมุนของล้อ และแรงเหวี่ยงของรถ
  2. วิเคราะห์สถานการณ์การขับขี่ – หากพบว่ารถเริ่มเสียการทรงตัว เช่น ลื่นไถลขณะเข้าโค้ง หรือเสียการควบคุมในขณะหักเลี้ยว ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ
  3. ปรับเบรกและแรงบิดของเครื่องยนต์ – ระบบ ESP จะทำการเบรกเฉพาะล้อบางข้าง และลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยให้รถกลับเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
  4. ช่วยให้รถคงเสถียรภาพขณะขับขี่ – ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น โดยเฉพาะบนพื้นถนนที่ลื่นหรือเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ข้อดีของระบบ Electronic Stability Program (ESP)

1. ป้องกันรถเสียการทรงตัวขณะเข้าโค้ง

ESP ช่วยให้รถสามารถทรงตัวได้ดีขึ้นเมื่อเข้าโค้ง ลดโอกาสที่รถจะหมุนคว้างหรือพลิกคว่ำ

2. เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่บนถนนลื่น

ช่วยให้รถสามารถขับขี่บนพื้นถนนที่เปียก หิมะ หรือทรายได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากการลื่นไถล

3. ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลนกะทันหัน

หากผู้ขับขี่ต้องเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว ระบบ ESP จะช่วยรักษาสมดุลของรถ

4. ทำงานอัตโนมัติ ไม่ต้องเปิด-ปิดเอง

ESP เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ารถกำลังเสียการทรงตัว

5. ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน ESP ทำให้รถสามารถกลับมาอยู่ในเส้นทางได้เร็วขึ้น

ESP ต่างจากระบบ Traction Control System (TCS) อย่างไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่าง ESP และ TCS (Traction Control System) เนื่องจากทั้งสองระบบช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถ แต่มีความแตกต่างกันดังนี้

คุณสมบัติESP (Electronic Stability Program)TCS (Traction Control System)
การทำงานหลักควบคุมการทรงตัวของรถโดยใช้เบรกและเครื่องยนต์ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะเร่งเครื่อง
การตอบสนองปรับแรงเบรกที่ล้อแต่ละข้างและลดกำลังเครื่องยนต์ลดกำลังเครื่องยนต์หรือใช้เบรกเพื่อให้ล้อจับพื้นถนน
เหมาะสำหรับการขับขี่ในโค้ง การเปลี่ยนเลนกะทันหัน ถนนลื่นการเร่งเครื่องบนถนนเปียกลื่น

โดยทั่วไป ESP และ TCS ทำงานร่วมกัน เพื่อให้รถสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพถนน

รถยนต์รุ่นไหนบ้างที่มีระบบ ESP?

ปัจจุบัน Electronic Stability Program (ESP) เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานที่มีในรถยนต์หลายรุ่น เช่น

  • Toyota – Toyota Corolla Altis, Camry, Hilux Revo
  • Honda – Honda Civic, Accord, CR-V
  • Mazda – Mazda 2, Mazda 3, CX-5
  • Nissan – Nissan Almera, X-Trail, Navara
  • BYD – BYD Atto 3, Dolphin, Seal
  • Mercedes-Benz & BMW – มีในรถยนต์รุ่นกลางถึงรุ่นสูง
  • SUV และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) – Tesla Model 3, Model Y, Audi e-Tron, Ford Mustang Mach-E

ESP มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?

แม้ว่าระบบ ESP จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรทราบ เช่น

  • อาจไม่ทำงานได้ดีในกรณีที่ถนนลื่นมากเกินไป – หากถนนเปียกมากหรือน้ำแข็งปกคลุม ESP อาจไม่สามารถป้องกันการลื่นไถลได้ 100%
  • ไม่ได้ช่วยให้เบรกดีขึ้น – ESP เป็นระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ไม่ได้ช่วยลดระยะเบรก
  • อาจลดกำลังเครื่องยนต์ในบางกรณี – ระบบ ESP อาจลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยควบคุมรถ ทำให้การเร่งเครื่องยนต์ช้าลง

สรุป

Electronic Stability Program (ESP) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ โดยช่วยให้รถคงเสถียรภาพ ลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลและเสียการควบคุม ระบบนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการขับขี่บนถนนที่โค้ง ถนนลื่น และในสถานการณ์ฉุกเฉิน

หากคุณกำลังมองหารถใหม่ ควรเลือกซื้อรถที่มีระบบ ESP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ติดต่อเรา | จองซื้อ & ทดลองขับ

อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ติดต่อ BYD BD Auto Group ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

BYD BD Auto Group

ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD

หมวดหมู่

ป้ายกำกับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

econ2 (Web H)

ระบบระบายความร้อนคืออะไร? การทำงาน และความสำคัญในเ...

ระบบระบายความร้อน (Cooling System) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรร...
byd seal 5 cover

BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid (ซุปเปอร์ไฮบริด) รถยน...

BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid (ซุปเปอร์ไฮบริด) คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่า...
Tire rotation cover

การสลับยางคืออะไร? วิธีที่ถูกต้องและประโยชน์ที่คุณ...

การดูแลยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื...
Tire Tread cover

หน้ายางคืออะไร? ความสำคัญและวิธีการเลือกใช้ยางที่เ...

หน้ายาง (Tire Tread) เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของยางรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการค...
Continental eContact cover

ยาง Continental รุ่น eContact ยางรถยนต์ไฟฟ้าพลังงา...

Continental ยางสัญชาติเยอรมันได้ออกแบบยางรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะในรุ่น eContact ซึ่ง...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD เสน่...

ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประว...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวหาดป่าตองภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD สีสันของ...

หาดป่าตอง (Patong Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต แ...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวแหลมพรหมเทพกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD พบกับจุดชมวิ...

แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape) ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหว...