BYD DOLPHIN จากแบรนด์ BYD จัดว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่เล็กตามเลย คุ้มค่าทั้งระยะทางและขนาดของแบตเตอรี่ พร้อมกำลังการอัดชาร์จที่สูงถึง 60 kW ระยะทางสูงสุดที่ 410 กิโลเมตร และแบตเตอรี่ขนาด 44.9 kWh ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกมีการออกแบบมาในสีพาสเทลเหมาะสมกับสไตล์รถยนต์ขนาดเล็ก ในส่วนของล้อก็ยังมีลูกเล่นตรงสีทูโทน โดยในรุ่น Standard Range มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Flora Purple, Coral Pink, Alaskan Grey และ Coastal Cream
ในรุ่น Extended มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Mafic Grey, Coral Pink, Atoll Blue และ Surge White BYD DOLPHIN รถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู ขนาดเล็ก โดยมีแรงบัลดาลใจในการออกแบบมาจากโลมาที่มีความปราดเปรียว บวกกับไซส์ที่เล็กกระทัดรัด หน้าตาน่ารักน่าครอบครอง เป็นรูปลักษณ์ที่มีความโดดเด่นที่เป็นผู้นำของการออกแบบสไตล์รถในอนาคต ที่มีการออกแบบให้หน้ารถเป็นทรงกลมมล และลวดลายที่ด้านข้างของประตู ที่ขาดไม่ได้เลยที่จะพูดถึงก็คือ ไฟท้ายที่มีความโดเด่นในการออกแบบ เหมาะกับภาพลักษณ์ที่มีความคล่องตัวเหมาะกับ City car เป็นอย่างมาก มาพูดถึงรูปลักษณ์ภายในที่มีความแปลกตากับการออกแบบที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง อีกทั้งยังสวยงามอีกด้วย โดยรูปทรงส่วนใหญ่จะเป็นทรงกลมถนัดมือ การตกแต่งภายในจะเป็นการตกแต่งแบบ 2 สีผสมกัน หากจะพูดถึงสมรรถนะและขุมพลังของเจ้าน้องโลมานั้น รับรองได้ว่าแรงเกินราคาเป็นอย่างมาก ขุมพลังมอเตอร์จะอยู่ที่ 70 kW ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 44.9 kWh และอัตรเร่ง 0-100 km/h ใช้เวลาเพียง 12.3 วินาที ในรุ่น Standard Range สามารถขับได้ไกลถึง 410 กิโลเมตร พร้อมด้วยเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD เท่านั้นนั้นก็คือ Blade Battery ที่จะเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มความจุของแบตให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้นทั้งในเรื่องความแข็งแกร่งที่ทนกับการชนและแรงดัน สามารถชาร์จไฟแบบ Fast Charge ได้แรงถึง 60 kW มาพร้อมการรับประกันตัวแบตนานถึง 8 ปี หือ 160,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ความหมายของ BYD DOLPHIN น้องโลมา น้องเล็กสุดของบรรดา BYD ที่กำลังเข้าไทยในขณะนี้ จัดอยู่ในตระกูล Ocean Series ซึ่งจะมีสิ่งเล็กๆซ่อนอยู่มากมายในตัว BYD DOLPHIN ที่ทำให้เราสัมผัสกับท้องทะเลแบบจริงๆ
โดยความหมายของสี BYD Dolphin นั้น ให้ความหมายได้ว่า
หากคุณมีงบประมาณระดับ 7-9 แสนบาท สำหรับตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว คงไม่ได้มองมาที่ BYD Dolphin Standard Range อย่างแน่นอน ด้วยออปชั่นที่ต่ำกว่าพอสมควร ทีนี้หากเราจะมองหาเหตุผลที่จะตัดสินใจซื้อ Standard Range มีดังนี้
โดยสรุปแล้ว หากคุณเบนเข็มมามอง BYD Dolphin เป็นตัวเลือกหลัก ความคิดเห็นของเราขอแนะนำรุ่น Extended Range เป็นหลัก เนื่องด้วยเรื่องของขนาดแบตเตอรี่ 60.48 kWh ล้วนๆ ส่วนอื่นๆ ที่ต่างกัน เราถือว่าเป็นของแถมทั้งสิ้น เพราะส่วนต่างราคารถอยู่เพียง 160,000 บาท หรือถ้าซื้อผ่อน ก็ผ่อนต่างกันเพียงเดือนละ 2,000 บาท แต่คุณจะได้แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นมากถึง 15 kWh ซึ่งมากพอที่จะทำให้ขับไกลขึ้นได้อีก 100 กิโลเมตร
โดยจากประสบการณ์ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าเกือบทุกรุ่นในประเทศไทยของเรา ยืนยันได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ขนาด 55 kWh ขึ้นไป จะสามารถขับจากกรุงเทพ ไปกลับเขาใหญ่ได้โดยไม่ต้องแวะชาร์จแบตเตอรี่
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดแบตเตอรี่เล็กกว่านี้ จำเป็นต้องแวะชาร์จทุกรุ่น ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
อีกทั้ง หากเราลองตรวจสอบราคา “แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบพกพา” ในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใด พบว่าจำหน่ายอยู่ในราคาราวๆ kWh ละ 30,000 – 50,000 บาทเลยทีเดียว เอาว่าในส่วนต่าง 160,000 บาท หากคุณหาซื้อแบตเตอรี่สำรองเอง คุณจะได้ปริมาณไฟฟ้าเพียง 4 kWh
ทว่า BYD Dolphin Extended Range ที่มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่กว่ารุ่น Standard Range ถึง 15 kWh มีส่วนต่างราคาเพียง 160,000 บาท หรือคิดเป็น kWh ละ 10,667 บาท เท่านั้น อีกทั้งยังมีออปชั่นที่เหนือกว่าหลายจุด โดยเฉพาะเรื่องของพละกำลังที่มากกว่าถึงเท่าตัว และยังได้เรื่องของช่วงล่างที่ได้ระดับมัลติลิ้งก์เหมือนกับ ATTO 3 เราจึงมองว่ารุ่น Extended Range คุ้มค่ากว่าทุกประการ
นวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ให้ความปลอดภัยสูงสุด มั่นใจได้ทุกการขับขี่
แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปอีกขั้น ทั้งอัตราเร่ง ระยะทางการขับขี่ ความเร็วในการชาร์จ เกาะถนนเป็นเยี่ยม ตลอดจนความนุ่มนวลในทุกการขับขี่
ปลุกทุกความตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยสุนทรียภาพของการขับขี่ เหนือระดับตลอดการเดินทางด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจลองทำความรู้จักเรามากขึ้น