ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

/
/
ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
cost buying ev-cover

หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV (Electric Vehicle) คุณจำเป็นต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอะไรบ้าง? การเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงที่เทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่คุณต้องเตรียมพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้งานด้วยพลังงานไฟฟ้า

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงค่าใช้จ่ายที่คุณจำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงราคาของรถยนต์เอง ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอินเฟรมชาร์จ ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างหรือการสร้างสถานที่ชาร์จ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว ถ้าคุณกำลังพิจารณาซื้อรถ EV อยู่ ความรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมก่อนการตัดสินใจในการซื้อรถยนต์ใหม่ที่ใช้งานด้วยพลังงานไฟฟ้า

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

1. ค่ารถ

ที่เราจะซื้อ พร้อมศึกษาข้อมูลเลือกซื้อรถ ให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานของเรา รวมทั้งศึกษาเงินดาวน์และเงินผ่อน ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุน ทั้งการลดภาษีนำเข้า ให้เงินอุดหนุน และลดภาษีรถยนต์ เพื่อที่จะให้ราคารถไฟฟ้าถูกกว่ารถสันดาป และสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยราคาเริ่มต้นของรถไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท ถึงหลักล้านกว่าบาทกันเลย ซึ่งการตัดสินใจซื้อรถการวางเงินดาวน์ก็เป็นค่าใช้จ่ายลำดับต้นๆ ที่เราจะต้องจ่ายออกไป

สำหรับมาตรการ EV 3.5

รัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ ดังนี้

  1. รถยนต์นั่ง (ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท)
    • ขนาดแบตเตอรี่ 10 kWh – 50 kWh
      • ปี 2567: 50,000 บาท/คัน
      • ปี 2568: 35,000 บาท/คัน
      • ปี 2569 – 2570: 25,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศ)
    • ขนาดแบตเตอรี่ 50 kWh ขึ้นไป
      • ปี 2567: 100,000 บาท/คัน
      • ปี 2568: 75,000 บาท/คัน
      • ปี 2569 – 2570: 50,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศ)
  2. รถยนต์นั่ง (ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท)
    • ไม่ได้รับเงินสนับสนุน
    • ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า จาก 40% เหลือ 0% หรือ มากสุด 40% และ ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า จาก 8% เหลือ 2%
  3. รถกระบะ (เฉพาะที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท)
    • ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป
      • ได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน
      • ได้รับสิทธิอัตราภาษีสรรพสามิต ร้อยละ 0 ในปี 2567 – 2568 และอัตราภาษีร้อยละ 2 ในปี 2569 – 2570
  4. รถจักรยานยนต์ (เฉพาะที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 150,000 บาท)
    • ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh ขึ้นไป
      • ได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท/คัน
      • ได้รับสิทธิอัตราภาษีสรรพสามิต ร้อยละ 1 ในปี 2567 – 2570
  5. มาตรการ EV 3.5
    • ลดอากรนำเข้าไม่เกินร้อยละ 40 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูป (CBU) ในช่วง 2 ปีแรก (พ.ศ. 2567 – 2568) กรณีเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และ ลดอัตราภาษีสรรพสามิตจากร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 2 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
    • กำหนดให้แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปที่นำเข้า และผลิตในประเทศไทยจะต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และ ต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานตามมาตรฐานสากลจากศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC)

2. ภาษี

การซื้อรถไฟฟ้าในขณะนี้จะได้รับส่วนลดค่าภาษีตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเป็นระยะเวลา 1 ปี ตามมาตรการลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ EV ที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูป ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 จะมีการลดภาษีลงร้อยละ 80 จากอัตราภาษีประจำปีสุดท้ายตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ โดยมีรายละเอียดการลดภาษีของรถยนต์ EV ดังนี้

  • รถเก๋งพลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ภาษีประจำปีปกติ 1,600 บาท ลดภาษีเหลือ 320 บาท
  • รถตู้ส่วนบุคคลพลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ภาษีประจำปีปกติ 800 บาท ลดภาษีเหลือ 160 บาท
  • รถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ภาษีประจำปีปกติ 50 บาท ลดภาษีเหลือ 10 บาท

ทั้งนี้ เราขอสรุปอัตราภาษีที่ต้องเตรียมจ่ายในปีแรก และปีถัดๆ ไป สำหรับรถยนต์ EV ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน

3. ค่าประกันภัยรถยนต์

ก็พอจะทราบกันอยู่แล้วว่าประกันภัยรถไฟฟ้า จะมีราคาแพงกว่ารถยนค์ทั่วไป เพราะรายละเอียดการคุ้มครองความเสียหาย และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น

  1. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมีราคาสูง : สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีค่าอะไหล่ที่มีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันค่ะ บริษัทประกันภัยจึงต้องแบกรับในส่วนนี้ เพราะรถบางรุ่น บางยี่ห้อ ยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนมาจัดจำหน่าย โดยที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ ทำให้ค่าชิ้นส่วน หรืออะไหล่ยังมีราคาแพง
  2. ให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่ : ราคาแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้ามีราคาค่อนข้างสูงอยู่ที่หลักแสนบาท เพราะสำหรับรถไฟฟ้า ตัวแบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจของรถที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะเป็นแหล่งสร้างพลังงานเพื่อใช้หมุนเวียนในทุกระบบของรถ และหากรถ EV เสีย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ศูนย์บริการมักจะแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ยกชุดแทนการซ่อมแซม เพราะทำได้ง่ายกว่า เช่น จากข้อมูลของรถ BYD ราคาแบตเตอรี่ของ ATTO 3 เริ่มต้น 528,730 บาท สำหรับรุ่น Standard Range และ 656,030 บาท สำหรับรุ่น Extended Range ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เป็นต้น
  3. ศูนย์บริการและการซ่อมบำรุงมีจำกัด : เนื่องจากรถไฟฟ้าเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยม มีข้อจำกัดเรื่องศูนย์บริการ และการซ่อมบำรุงอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากต้องใช้ช่างที่มีความรู้ และความชำนาญเฉพาะทางเท่านั้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมก็จะสูงตามไปด้วย
ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

4. การติดตั้ง EV Charger ในบ้าน

เมื่อคุณมีความตั้งใจที่จะเข้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV (Electric Vehicle) สิ่งสำคัญที่คุณต้องพร้อมเตรียมคือการติดตั้ง EV Charger ในบ้าน การติดตั้ง EV Charger นั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของรถได้ที่บ้านอย่างสะดวกสบาย ก่อนที่จะนำ EV Charger มาติดตั้ง ควรทำการเช็กปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบ้านร่วมกับเครื่องชาร์จไฟก่อนเพื่อดูว่าระบบไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่รองรับการใช้งานหรือไม่

บ้านที่เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าควรจะมีพื้นที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30(100)A 1P 2W หรือ 15(45)A 3P 4W ขึ้นไป หากมีมิเตอร์ไฟฟ้าขนาดต่ำกว่านี้ อาจจะต้องทำการเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และอาจจะต้องพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าวงจร 2 อีกด้วย

นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงสายไฟเมนขนาด 25 ตารางมิลลิเมตรเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานของ EV Charger ที่มีกระแสไฟสูง

ต้องมีตู้ Main Circuit Breaker (MCB) ที่รองรับกระแสไฟได้สูงสุดไม่เกิน 100 แอมป์ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่วจากการใช้งาน

ระบบการตัดไฟรั่ว (Residual Current Device หรือ RDC) เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องติดตั้งเพื่อตัดวงจรเมื่อมีค่ากระแสไฟฟ้าไหลเข้า-ออกไม่เท่ากัน

เต้ารับสำหรับการติดตั้ง EV Charger ที่บ้านจะต้องใช้สายดินหุ้มฉนวนขนาดไม่ต่ำกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร และสายหลักดินควรมีขนาด 16 มิลลิเมตร ยาว 2.4 เมตรตามมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง EV Charger นั้นมีค่าใช้จ่ายตามมา เช่น ค่าเปลี่ยนมิเตอร์ที่ราคาเริ่มต้นที่ 4,700 บาท (ไม่รวมค่าจ้างช่าง) และราคาของ EV Charger ที่อยู่ระหว่าง 35,000 – 75,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของ EV Charger นั้นๆ

5. ค่าไฟฟ้า

การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายังต้องคำนวณถึงค่าไฟรถไฟฟ้า หรือ EV ควบคู่ไปกับการพิจารณาราคารถยนต์ไฟฟ้าและค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้า

รถไฟฟ้าที่ชาร์จไฟบ้านใช้เงินกี่บาท?

ค่าใช้จ่ายจากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับ “ค่าพลังงานไฟฟ้า” และ “ความจุแบตเตอรี่” เช่น หากรถยนต์ไฟฟ้ามีความจุแบตเตอรี่ที่ 50 kWh หากอัตราการใช้ไฟฟ้า 1 หน่วยมี ค่าใช้จ่าย 4.5 บาท เท่ากับว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1 ครั้งจะมีค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 50 x 4.5 = 225 บาท

ด้วยเหตุนี้ หากรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็จะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้น อย่าลืมติดตามข่าวสารถึงค่าพลังงานไฟฟ้าที่คิดเป็นหน่วย พร้อมคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าที่มากับรถยนต์ร่วมด้วย

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สถานีมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามสถานีหรือจุดบริการมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการ แต่เริ่มต้นจะอยู่ที่ 5.5 – 8 บาท/หน่วย เท่ากับว่า หากรถยนต์ไฟฟ้ามีความจุแบตเตอรี่ที่ 50 kWh ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 225 – 400 บาท แต่ราคานี้ยังไม่รวมภาษีและค่าบริการอื่นๆ ที่เป็นไปตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการ

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์น้ำมันอย่างไร?

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ รถยนต์ไฟฟ้ามักมีราคาต้นทุนสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากเทคโนโลยีและวัสดุที่ใช้ในการผลิตมักมีความสูงขึ้น อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger ในบ้านก็ต้องพิจารณาเพิ่มเติม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าในบ้านหากจำเป็น อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ามักมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำลง เนื่องจากการชาร์จแบตเตอรี่มักมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเติมน้ำมัน เพื่อนิยมของการใช้งานอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการอนุรักษ์และบำรุงรักษาระบบแบตเตอรี่อีกด้วย ทั้งนี้ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในการซื้อน้ำมันเพื่อใช้งานในระยะยาว แต่รถยนต์ไฟฟ้ามักมีค่าใช้จ่ายในการชาร์จแบตเตอรี่แทนที่จะใช้เชื้อเพลิง เช่นเดียวกันการตรวจสอบเงื่อนไขของการรับเงินสนับสนุนหรือการลดหย่อนภาษีก็มีความสำคัญในการประเมินค่าใช้จ่ายของทั้งสองประเภทของรถ

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

สรุป

ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายหลายอย่าง เช่น ค่าซื้อรถเอง ค่าติดตั้ง EV Charger ในบ้าน เปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าในบ้าน (หากจำเป็น) และค่าบำรุงรักษารถในระยะยาว เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการอนุรักษ์และบำรุงรักษาระบบแบตเตอรี่อีกด้วย ทั้งนี้ การตรวจสอบเงื่อนไขการรับเงินสนับสนุนหรือลดหย่อนภาษีก็เป็นส่วนสำคัญในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อรถยนต์ EV อีกด้วย

ติดต่อเรา | จองซื้อ & ทดลองขับ

อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ติดต่อ BYD BD Auto Group ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

ป้ายกำกับ

BYD BD Auto Group

ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD

หมวดหมู่

บทความที่เกี่ยวข้อง

BYD seal05-1 (Web H)

ตารางผ่อน BYD Seal 5 DM-i [อัปเดต 2025]

BYD SEAL 5 DM-i รถยนต์ซีดานพลังงานทางเลือกจากค่าย BYD ที่เปิดตัวในปี 2025 กำลังเ...
econ2 (Web H)

ระบบระบายความร้อนคืออะไร? การทำงาน และความสำคัญในเ...

ระบบระบายความร้อน (Cooling System) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรร...
Tire rotation cover

การสลับยางคืออะไร? วิธีที่ถูกต้องและประโยชน์ที่คุณ...

การดูแลยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากยางเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื...
Tire Tread cover

หน้ายางคืออะไร? ความสำคัญและวิธีการเลือกใช้ยางที่เ...

หน้ายาง (Tire Tread) เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของยางรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการค...
Continental eContact cover

ยาง Continental รุ่น eContact ยางรถยนต์ไฟฟ้าพลังงา...

Continental ยางสัญชาติเยอรมันได้ออกแบบยางรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะในรุ่น eContact ซึ่ง...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD เสน่...

ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประว...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวหาดป่าตองภูเก็ตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD สีสันของ...

หาดป่าตอง (Patong Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดภูเก็ต แ...
dolm12 (Web H)

ไปเที่ยวแหลมพรหมเทพกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD พบกับจุดชมวิ...

แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape) ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหว...