รถปลั๊ก-อินไฮบริดรุ่นใหม่จาก BYD มาพร้อมเทคโนโลยี “Super DM-i” ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Blade Battery ให้กำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร สามารถขับด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที
ด้วยประสิทธิภาพความร้อนของเครื่องยนต์สูงถึง 43% จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม วิ่งได้ระยะทางรวมมากกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จและเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง ตอบโจทย์ทั้งการขับในเมืองและเดินทางไกล ครบทั้งแรง ประหยัด และเทคโนโลยีล้ำสมัยในคันเดียว

ปลดปล่อยพลังแห่งจินตนาการไปกับ BYD SEAL 5 DM-i Super Hybrid สปอร์ตซีดานระดับพรีเมียมจากแนวคิด BYD OCEAN SERIES ที่ได้แรงบันดาลใจจากความงดงามและพลังอันไร้ขีดจำกัดของมหาสมุทร ดีไซน์ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยว และเร้าใจทุกองศา สะท้อนเอกลักษณ์ของรถยุคใหม่ที่พร้อมพาคุณทะยานสู่ทุกเส้นทางแห่งจินตนาการ
ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ DM-i Super Hybrid ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง และ BYD Blade Battery แบตเตอรี่ลิเทียมประสิทธิภาพสูงที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยระดับโลก ให้พลังแรงเต็มสมรรถนะ พร้อมความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่นุ่มนวลเหนือระดับ ทุกเส้นทางคือการผจญภัยใหม่ที่เร้าใจและเหนือความคาดหมายในแบบฉบับของ BYD SEAL 5 DM-i Super Hybrid
BYD SEAL 5 DM-i Super Hybrid คือรถยนต์ซีดานปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่จากค่าย BYD ที่รวมข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดไว้ในคันเดียว ให้ทั้งแรง ประหยัด และขับขี่นุ่มนวล มาพร้อมเทคโนโลยี Super DM-i ที่พัฒนาให้ใช้งานได้จริงในทุกสภาพการขับขี่
รถรุ่นนี้ผลิตในประเทศไทย ที่โรงงาน BYD จังหวัดระยอง ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมรถพลังงานสะอาดในบ้านเรา
SEAL 5 DM-i ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
เครื่องยนต์ให้กำลัง 97 แรงม้า แรงบิด 122 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร รวมพลังได้ถึง 214 แรงม้า
อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 7.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ราว 185 กม./ชม.
BYD ใช้แบตเตอรี่แบบ Blade Battery (LFP) ที่ปลอดภัยและทนทาน
รุ่น Standard ใช้แบตเตอรี่ 13.08 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 80 กม.
รุ่น Premium ใช้แบตเตอรี่ 18.3 kWh วิ่งได้ไกลขึ้นเป็น 120 กม.
ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 กำลัง 6.6 kW
รุ่น Premium ยังมีระบบ VtoL (Vehicle to Load) ที่สามารถจ่ายไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ด้วย
ขนาดกำลังดีสำหรับรถซีดานขับสบาย ให้พื้นที่กว้างทั้งห้องโดยสารและห้องเก็บของ
ภายในออกแบบหรูหราและเรียบง่าย
SEAL 5 DM-i มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีชื่อเสียงเรื่องความปลอดภัยสูงสุด ไม่ลุกไหม้ง่าย ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS), ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ถุงลมนิรภัย 6 จุด และระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
รุ่น Premium เพิ่มระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) เช่น
BYD SEAL 5 DM-i รุ่น Standard จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Arctic White, Quantum Black
BYD SEAL 5 DM-i รุ่น Premium จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Arctic White, Harbour Grey, Quantum Black
BYD SEAL 5 DM-i Super Hybrid รุ่น Standard คือรถซีดานปลั๊กอินไฮบริดระดับเริ่มต้นในตระกูล SEAL 5 ที่ให้ความคุ้มค่าเหนือราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสเทคโนโลยี “Super Hybrid” ของ BYD ซึ่งผสานพลังจากเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ให้ทั้งสมรรถนะที่เร้าใจและความประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด
BYD SEAL 5 DM-i รุ่น Standard: อยู่ในช่วงราคา ประมาณ 1.1 – 1.2 ล้านบาท
(ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และโปรโมชั่นของแต่ละดีลเลอร์)
BYD SEAL 5 DM-i Super Hybrid รุ่น Premium คือรถซีดานปลั๊ก-อินไฮบริดระดับพรีเมียม ที่ผสานความแรงและความประหยัดไว้ในคันเดียว ด้วยเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid รุ่นใหม่ล่าสุดของ BYD ที่ออกแบบมาให้ผู้ขับได้สัมผัสความเร้าใจแบบรถสปอร์ต พร้อมความเงียบและความลื่นไหลเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV)
รุ่น Premium เป็นรุ่นสูงสุดของตระกูล SEAL 5 DM-i โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ และระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ขับได้ระยะทางไฟฟ้าล้วนไกลขึ้น
ดีไซน์ล้ำสมัย เสริมภาพลักษณ์พรีเมียมและความโฉบเฉี่ยว
ให้ความสว่างคมชัด สวยหรูมีสไตล์
เชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองข้าง เพิ่มความล้ำยุคและโดดเด่นในยามค่ำคืน
ช่วยขับเสน่ห์สปอร์ตและลงตัวกับดีไซน์ตัวถัง
รองรับการชาร์จสะดวกทุกที่
พร้อมอุปกรณ์เสริม ให้คุณจ่ายไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลา
ให้ความรู้สึกกว้างขวางและเรียบหรูในทุกมุมมอง
คอนโซลกลางออกแบบให้ใช้งานครบจบในจุดเดียว มาพร้อมเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Dial ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้ว
หมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รองรับระบบความบันเทิงครบครัน
ฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
เพิ่มความสะดวกในทุกการเดินทาง
พร้อมช่องชาร์จ USB-A และ USB-C รองรับทุกอุปกรณ์
เพิ่มความสบายในการเดินทางไกล
พร้อมเบาะหลังพับแยกอิสระแบบ 60:40 รองรับทุกการใช้งาน
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นกุญแจอัจฉริยะ สะดวกพร้อมเดินทางได้ทุกเมื่อ
BYD SEAL 5 DM-i เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่รวมข้อดีของรถไฟฟ้า (EV) และรถน้ำมันไว้ในคันเดียว ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนหลักในเมือง และใช้น้ำมันสำหรับการเดินทางไกล เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแรงแต่ก็ยังประหยัดพลังงาน
DM-i Super Hybrid คือเทคโนโลยีไฮบริดเฉพาะของ BYD ที่พัฒนาให้เครื่องยนต์ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เป็นหลัก ให้การตอบสนองที่ลื่นไหล ประหยัดน้ำมันสูงสุด และมีอัตราเร่งดีเยี่ยม
รุ่น Standard เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า มาพร้อมแบตเตอรี่ 13.08 kWh วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 80 กม.
ส่วนรุ่น Premium จะหรูหราและครบฟังก์ชันมากกว่า เช่น
รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 กำลัง 6.6 kW
ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้เวลาประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่และกำลังไฟที่ใช้)
จริงครับ เพราะ BYD Blade Battery เป็นแบตเตอรี่ชนิด LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่ผ่านการทดสอบระดับโลก เช่น “การเจาะทะลุด้วยตะปู” โดยไม่เกิดการลุกไหม้หรือระเบิด ถือเป็นหนึ่งในแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
SEAL 5 DM-i มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 3.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (หรือราว 26 กม./ลิตร)
ถือว่าประหยัดมากเมื่อเทียบกับรถซีดานขนาดเดียวกัน
เมื่อชาร์จเต็มและเติมน้ำมันเต็มถัง SEAL 5 DM-i สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จและเติมน้ำมัน
ไม่รองรับครับ เพราะ BYD SEAL 5 DM-i รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับการใช้งานประจำวันในบ้านหรือที่ทำงาน
VtoL (Vehicle to Load) คือระบบที่สามารถแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่ของรถให้กลายเป็นแหล่งจ่ายไฟภายนอก เช่น ใช้ต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเวลาแคมป์ ปิ้งย่าง หรือชาร์จโน้ตบุ๊กได้
จริงครับ เพราะ BYD SEAL 5 DM-i ถูกผลิตที่โรงงาน BYD จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของ BYD ในภูมิภาคอาเซียน
รถทุกคันอยู่ภายใต้การดูแลของ Rever Automotive ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
มีศูนย์บริการมาตรฐาน BYD ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ Blade Battery 8 ปี หรือ 160,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)