สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับฟิล์มกระจกรถยนต์

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับฟิล์มกระจกรถยนต์
BYD BD Auto Group

ฟิล์มกระจกรถยนต์เป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความสวยงามให้กับรถยนต์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ควรรู้จักและพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกฟิล์มกระจกรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถของคุณ

ฟิล์มกระจกรถยนต์ คืออะไร?

ฟิล์มกระจกรถยนต์คือวัสดุโปร่งใสหรือกึ่งโปร่งใสที่ติดบนกระจกรถยนต์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ฟิล์มกระจกมีหลากหลายประเภท โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นฟิล์มกรองแสงและฟิล์มกรองรังสีฟิล์มกรองแสงทำหน้าที่ลดความร้อนจากแสงแดดและแสงจ้า ลดการสะท้อนแสงในเวลากลางคืน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่วนฟิล์มกรองรังสีช่วยกรองรังสี UV และรังสีอินฟราเรดที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและภายในรถยนต์

ประโยชน์ของฟิล์มกระจกรถยนต์

  1. ลดความร้อนภายในรถยนต์ ฟิล์มกระจกรถยนต์ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่เข้าสู่ภายในรถ ทำให้การขับขี่สบายมากขึ้น และยังช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
  2. ป้องกันรังสี UV ฟิล์มกระจกรถยนต์สามารถกรองรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและสายตาได้ถึง 99% ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพระยะยาว
  3. เพิ่มความปลอดภัย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ฟิล์มกระจกรถยนต์จะช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้กระจายไปทั่ว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
  4. ปกป้องภายในรถ ฟิล์มกระจกสามารถป้องกันการซีดจางและการเสื่อมสภาพของวัสดุภายในรถที่เกิดจากแสงแดด ทำให้รถยนต์ดูใหม่และสะอาดอยู่เสมอ
  5. เพิ่มความเป็นส่วนตัว ฟิล์มกระจกรถยนต์ช่วยลดการมองเห็นจากภายนอก ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังช่วยป้องกันการถูกมองเห็นของทรัพย์สินภายในรถ

ประเภทของฟิล์มกระจกรถยนต์

  1. ฟิล์มสี (Dyed Film) ฟิล์มสีเป็นฟิล์มที่มีราคาถูกที่สุด มีการเพิ่มสีในกระบวนการผลิตเพื่อให้มีความเข้มต่างๆ ฟิล์มชนิดนี้ช่วยลดแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ดีเท่าฟิล์มชนิดอื่น
  2. ฟิล์มเมทัลไลซ์ (Metalized Film) ฟิล์มเมทัลไลซ์มีการเพิ่มชั้นโลหะในกระบวนการผลิต ซึ่งช่วยในการสะท้อนความร้อนและรังสี UV ได้ดี แต่มีข้อเสียคืออาจรบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น GPS หรือโทรศัพท์มือถือ
  3. ฟิล์มคาร์บอน (Carbon Film) ฟิล์มคาร์บอนมีการเพิ่มชั้นคาร์บอน ทำให้มีความสามารถในการป้องกันรังสี UV และลดความร้อนได้ดี โดยไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์
  4. ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film) ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มที่มีคุณภาพสูงที่สุด มีการเพิ่มชั้นเซรามิก ทำให้สามารถกรองรังสี UV และลดความร้อนได้ดีมากที่สุด โดยไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์และมีความทนทานสูง

การเลือกฟิล์มกระจกรถยนต์

  1. พิจารณาความต้องการและงบประมาณ การเลือกฟิล์มกระจกรถยนต์ควรพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของคุณ หากต้องการฟิล์มที่มีคุณภาพสูงและทนทาน ควรเลือกฟิล์มเซรามิกหรือฟิล์มคาร์บอน
  2. ตรวจสอบการรับประกัน เลือกฟิล์มกระจกที่มีการรับประกันจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพและการใช้งาน
  3. เลือกความเข้มของฟิล์ม ความเข้มของฟิล์มมีผลต่อการมองเห็นและการป้องกันแสง ควรเลือกความเข้มที่เหมาะสมกับการใช้งานและปฏิบัติตามกฎหมายจราจร
  4. ตรวจสอบมาตรฐาน เลือกฟิล์มกระจกที่มีมาตรฐานการผลิตและการทดสอบความปลอดภัย เช่น มาตรฐานของสถาบันต่างๆ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

สรุป

ฟิล์มกระจกรถยนต์เป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มากมายทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความสวยงาม การเลือกฟิล์มกระจกที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน

ติดต่อเรา

หมวดหมู่

ป้ายกำกับ

บทความที่น่าสนใจ

BYD Sealion7-1 (Web H)
ปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแนวคิดที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้เชื้อเพลิงฟอส...
BYD Sealion7-1 (Web H)
ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์พลังงานสะอาดได้รับความนิยมมากขึ้น รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นตัวเล...
BYD Sealion7-1 (Web H)
เกริ่นนำ ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยียานยนต์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิย...
BYD Sealion7-1 (Web H)
ในยุคที่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ PHEV ...
BYD Sealion7-1 (Web H)
รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากความสามารถในการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ...
BYD Sealion7-1 (Web H)
ในยุคที่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้บริโภคมักมีคำถามว่าควรเลือกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือรถยนต์ปลั๊...
กำลังเพิ่มข้อมูล